จอห์น เทอร์รี่ เป็นนักฟุตบอลอังกฤษ ที่เกษียณแล้ว ผู้เล่นเกือบตลอดอาชีพของเขา ในพรีเมียร์ลีก ของทีมเชลซี เมื่อออกจากเชลซีในปี 2560 แล้ว จอห์น เทอร์รี่ ได้ลงเล่นให้แอสตันวิลล่า ชั่วคราวก่อนที่จะมีการเริ่มต้น การฝึกสอนที่ สโมสร เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ในฐานะผู้ช่วยโค้ช จอห์น เทอร์รี่ รับบทเป็นแบ็คเซ็นเตอร์ และได้รับการเคารพ ในการป้องกันเชิงรุก รวมถึงมีทักษะ ความเป็นผู้นำของ จอห์น เทอร์รี่ เขายิงประตูได้ 41 ประตูสำหรับฝั่ง ทำให้เขาเป็นผู้พิทักษ์ คะแนนสูงสุด ของสโมสรตลอดกาล จอห์น เทอร์รี่ สร้างภาพลักษณ์ให้กับทีมกว่า 700 นัด และเป็นกัปตันตลอดเวลา ที่จอห์น เทอร์รี่อยู่ เขาเป็นกัปตันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และดีที่สุด ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำให้ทีมมีชื่อในพรีเมียร์ลีกถึง 5 ครั้ง Terry ยังได้รับรางวัล FA Cup 5 ครั้งถ้วยลีก 3 ถ้วยลีกยูฟ่ายูโรปา 1 ลีก และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 รายการกับเชลซี
ในวงการกีฬาฟุตบอลนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชายคนนี้เลย โดยเฉพาะแฟนบอลสิงโตน้ำเงินคราม หรือเชลซี ก็ต้องรู้จักชายเบอร์ 26 จอห์น เทอร์รี่ ผู้นี้ เขาคือนักเตะ ผู้มีความเป็น Chelsea โดยแก่นแท้ เขาเป็นกัปตันทีม Chelsea ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอล และในประวัติศาสตร์ของทีม และในสายตาของหลาย ๆ คน จอห์น เทอร์รี่ ถือเป็นกองหลังตัวกลาง ที่ดีที่สุด ในขณะนี้ ทั้งมีความสามารถ ในการอ่านเกม อย่างยอดเยี่ยม เทคนิคการเล่น และการทุ่มเทให้กับทีม ทำให้เขาเป็นมากกว่ากองหลัง
นักเตะผู้มีความเป็น Chelsea โดยแก่นแท้ และฮีโร่ตัวจริงของแฟน ๆ หลาย ๆ คงหนีไม่พ้นจอห์น เทอร์รี่ เขาคือกัปตันทีมเชลซี ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของทีมเลยก็ว่าได้ และในสายตาของหลาย ๆ คน เขาถือเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในขณะนี้ ทั้งความกล้าหาญไว้ในเกม ความสามารถ ในการอ่านเกม อย่างยอดเยี่ยม เทคนิคการเล่น และการทุ่มเทให้กับทีม
สารบัญ
ประวัติของ จอห์น เทอร์รี่
จอห์น เทอร์รี่ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2523 ในเห่าลอนดอน จอห์น เทอร์รี่ เริ่มมีการเรียนรู้ดูบอล และเล่นฟุตบอลในช่วงเวลาที่เขา อยู่ที่โรงเรียนอีสต์เบอรี่ เขาเล่นให้กับทีม ในลีกวันอาทิตย์ Senrab ก่อนที่จะย้ายไปยังระบบ เยาวชนของ เวสต์แฮม เมื่ออายุ 11 ปี และเชลซีเมื่ออายุ 14 ปี
จอห์น เทอร์รี่ เล่นในตำแหน่งกองกลาง อย่างชาญฉลาด แต่ถูกย้ายไปยัง ตำแหน่งการป้องกันส่วนกลางหลัง จากความขาดแคลนผู้เล่นฝ่ายรับฝ่านนี้ เมื่ออายุ 17 ปี จอห์น เทอร์รี่ ลงนามในสัญญาแบบมืออาชีพ กับโครงการอบรมเยาวชนของเชลซี เขาปรากฏตัว ครั้งแรกสำหรับเชลซีเมื่ออายุ 18 ปี เป็นตัวสำรองในการแข่งขันลีกคัพ กับแอสตันวิลล่า เขาเริ่มต้นฤดูกาลต่อไปในการแข่งขัน FA Cup กับโอลด์แฮมแอธเลติก
John Terry ยืมมาจากนอทในเวลาแค่สั้น ๆ Forrest ในปี 2000 เพื่อรับประสบการณ์ในทีมแรก เมื่อเขากลับมาจากการกู้เงิน ก็พาเชลซีไปด้วย พายุทันที และได้รับการโหวต ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ของ Chelsea ในฤดูกาล 2000/2001
John Terry ได้ปลอกแขนกัปตัน ที่ก่อนการปกครองของ Claudio Ranieri ผู้จัดการคนใหม่ José Mourinho เมื่อเขามาถึงทำให้ John Terry เป็นกัปตันทีม เป็นผู้นำในลีก ในแบบที่ทำลาย สถิติในฤดูกาล 2547/2548 และประสบความสำเร็จ ในการป้องกันในฤดูกาลถัดไป
นอกจากนี้เขายังประสบความสำเร็จ ในอาชีพการงานนี้แล้ว John Terry ยังมีความยอดเยี่ยม ในด้านชาติอังกฤษซึ่งเขายังได้เป็นกัปตัน ในตำแหน่งต่อจาก เดวิดเบ็คแฮม John Terry ทำผลงานได้ 78 ครั้งจากการลงสนาม 6 ประตู เขานำอาชีพระหว่างประเทศ ของเขาไปสิ้นสุดใน เดือนกันยายน 2012 และอาชีพที่โด่งดังของเขา ที่ Chelsea สิ้นสุดลง ในเดือนพฤษภาคม 2017 เขาเข้าร่วม Aston Villa ข้างแชมป์ในการโอนฟรี ในเดือนกรกฎาคม 2017 เขาออกจากด้านข้างใน เดือนพฤษภาคม 2018 และในวันที่ 7 ตุลาคม 2561 ออกอย่างเป็นทางการจากวงการฟุตบอล
รายได้สุทธิ ของ John Terry
ด้วยความ ประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลครั้งใหญ่ paychecks และ John Terry ได้รับรางวัลอย่างเพียงพอมากสำหรับบริการ ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขา ไปยังฝั่งลอนดอน ในฤดูกาล 2006/2007 เขาเป็นผู้เล่นที่มีรายได้สูงสุด ของพรีเมียร์ลีกนี้เลย โดยมีรายรับประมาณ 135,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หลังจากเซ็นสัญญาขยายสัญญา ในเดือนพฤษภาคม 2559 John Terry รับค่าตอบแทน 90,000 ปอนด์ หนึ่งปีของเขาที่ Aston Villa ทำให้เขามีเงิน 4 ล้านปอนด์ มูลค่าสุทธิหลังเกษียณของ อยู่ที่ประมาณ 38.2 ล้านปอนด์
ตำนานกัปตันสิงห์บลูส์ จอห์น เทอร์รี ( John George Terry )
อดีตกัปตันปราการหลัง Chelsea ที่ประสบความสำเร็จ มากที่สุดใน ประวัติศาสตร์เชลซี ผู้ที่ผ่านความยากลำบากที่สุด ในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ที่สร้างแรงบัลดาลใจ ให้แก่เพื่อร่วมทีมช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค์ต่าง ๆ มาได้จนทีม ประสบความสำเร็จ เด็กหนุ่มที่เติบโตจาก อคาเดมี่ จอห์น เทอร์รี เด็กหนุ่มที่เติบโตในเมืองผู้ดีอย่าง ลอนดอน
ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้นจริง ๆ แล้วเขาเป็นแฟนบอลตัวยงของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขามักศึกษาการเล่นจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนำมาผสมผสาน กับการเล่นของเขา ทำให้เขาตอนนั้น ที่เล่นให้ทีม Sunday ทีมในท้องถิ่นแถวบ้านของเขาที่มีทั้ง โซล แคมป์เบลล์, เลดลีย์ คิง และ บ๊อบบี้ ซาโมร่า ในปี 1991 ได้อายุ 11 ปี เขาได้เข้าร่วมกับทีมเยาวชนเวสต์แฮม เมื่อเขาเล่นเขาทำผลงาน ได้อย่างโดดเด่นเกินวัย จนสุดท้ายไปสะดุดตา ของทีมร่วมเมืองลอนดอนอย่าง เชลซี ทำให้ 3 ปีต่อมา เขาได้ย้ายไปร่วมกับทีม เยาวชนเชลซี
ครั้งหนึ่ง เคยถูกยืมตัวไปเล่น ให้กับทีม น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ และเป็นที่นี้แหละ ที่ช่วยพัฒนาฝีเท้าของเขา ได้เป็นอย่างดีมากเลย รวมถึงได้เรียนรู้กับ มาร์กเซล เดอ ไซญี่ ตำนานกองหลังเชลซี เพียงแค่ 2 ปี หลังจากการเล่น ให้กับทีม เชลซี เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำปีของสโมสร เชลซี และถูกเรียกติดทีมชาติ ครั้งแรกเมื่อปี 2003 เขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริง และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม เชลซี ในตอนนั้น
จุดเริ่มต้นของสายอาชีพ หลังจากนั้น
ครั้งแรก ๆ ของการเป็นกัปตันปีแรกที่ เป็นกัปตันทีม เขาพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกสมัยแรก ให้กับสโมสร และตามด้วยการคว้าแชมป์ คาร์ลิง คัพเทอร์รี่ ทำผลงานได้ อย่างยอดเยี่ยม โดยทำประตูไปถึง 8 ประตู กันเลยทีเดียว และได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี และเขาคือนักเตะ เชลซี คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
ความสำเร็จมาพร้อมกับความเจ็บปวด : 2005-2007
ในฤดูกาล 2005-2006 ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อีกเช่นเดิม และเขาก็ได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ และเป็นนักเตะเชลซี คนแรก ๆ ที่ได้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ในฤดูกาล 2006-2007 ได้ถูกรบกวน จากการอาการบาดเจ็บของเขา เขาได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนทำให้ ได้ลงสนามน้อยลงเพียง 37 นัด จาก 62 นัดที่ เชลซี ได้ทำการลงแข่งขัน ความเจ็บปวดแรก ก็ได้เริ่มขึ้นในเกมนัดชิงใน UCL เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไป เจอกับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้ง 2 ทีมเสมอกันในเวลา 1-1 ทำให้ต้องดวลจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดจุดโทษคนแรกคือ คริสเตียนโน โรนัลโด ที่ยิงไปติดเซฟของ ปีเตอร์ เช็ค ทั้ง 2 ทีมยิงกันจนถึงคนที่ 5 ที่ถ้าเชลซียิงเข้าจะคว้าแชมป์ UCL สมัยแรกให้กับสโมสรได้สำเร็จ
และคนที่รับหน้าที่ สังหารคนที่ 5 คือ จอห์น เทอรี่ นั่นเอง เขาคือผู้ตัดสิน ชะตาของสโมสรเองเลย ว่าจะไปในทางด้านใด และก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น เขาวิ่งไปยิง บอลออกจากเท้า ฟานเดอซาร์ พุงไปคนละทาง กับทางที่ฟุตบอลพุ่งไป แต่ลูกบอลกลับพุ่งไปชนเสา ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงชัดเดนเดท และผลบอลก็กลับกลายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะจุดโทษเชลซี และ ก็เป็นความเจ็บปวดที่สุดที่ เทอร์รี่ เคยพบเจอมา
ถึงเวลาตื่นจากฝันร้าย : 2008-2013
ในฤดูกาล 2008 เขากลับมาจากฝันร้ายได้แล้ว ถึงแม้จะผิดหวังจาก พรีเมียร์ลีก แต่เขาก็พาทีมคว้าแชมปั เอฟเอ คัพ ได้และการเข้ามาของ คาร์โล อันเชล็อตติ คือจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง จอห์น เทอรี่ ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพเป็นคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ครั้งแรกของเขากับเชลซี ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ แบนในคดีที่เคยเหยียดสี่ผิว แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ถูกริบปอกแขนกัปตันทีม ทำให้เทอรี่ เลิกเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ปีที่ทำให้ฝันร้ายของเขาหายไปคือ 2012 เชลซีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พบกับบาร์เชโลน่า ในนัดแรกเชลซี เปิดบ้านชนะ บาร์เซโลน่า ไป 1-0 และนัดที่ 2 นั้น เชลซีโดน บาร์เซ โลน่า นำออกไปก่อน 1-0 และมีจังหวะที่ เทอร์รี่ ไปเล่นนอกเกม แทงเข่าใส่ผู้เล่น บาร์เซ โลน่า ผู้ตัดสินชูใบแดง และได้ไล่ ออกจากสนาม ในตอนนั้น ทำให้ถ้าผ่านเข้ารอบต่อไป เขาจะไม่สามารถลงนัดชิงชนะเลิศได้เลย
และเชลซี ก็ได้ทำสำเร็จ เชลซีตีเสมอในช่วงท้ายเกมจาก ตอรร์เรส 2-2 จบเกม เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค และในนัดชิงเขาไม่สามารถลงเล่นได้ แต่เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ก็สามารถทำได้โดยการชนะจุดโทษ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเบียนส์ลีก เป็นสมัยแรกให้กับสโมสรในปีต่อมา เชลซี ได้พลาดแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไป ตกรอบมาเล่นรอบ 32 ทีม ในฟุตบอลยูฟ่ายูโรปาลีก และก็เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และเป็นเช่นเดิม ในนัดชิงชนะเลิศ เทอร์รี่ ไม่ได้ลงสนามแต่เพื่อนร่วมทีมก็สามารถพา เชลซี คว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีกได้ เป็นการชูถ้วยแชมป์ยุโรป 2 ถ้วยในรอบ 2 ปี
จุดสูงสุดช่วงสุดท้าย : 2014-2017
ปีที่ 2014 – 2015 สร้างสถิติใหม่เป็นผู้เล่นที่ลงเล่น ในเกมพรีเมียร์ลึก ครบ 38 นัด และทุกวินาที กับทีมตลอดทั้งฤดูกาลและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก กับทีม ไปในหลายสนาม และเป็นผู้เล่นที่เป็นกองหลัง ที่ทำประตูมากที่สุด ในพรีเมียร์ลีก ตลอดกาล ที่ 39 ประตู และติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วย และกับแชมป์สุดท้ายกับเขาในปี 2016-2017 การเข้ามาของคอนเต้ ได้รับการเล่นแบบสับใหม่ โดยใช้การยืนแบบหลัง 3 และ คอนเต้ ก็ใช้แผนนี้ ในการพา Chelsea คว้าแชมป์พรีเมียร์ลึก ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งที่ 4 และก็เป็นปีที่เขาลาจากออก Chelsea การลงเล่นนัดสุดท้ายกับ Chelsea ของ คือนัดที่ เปิดบ้านต้อนรับทีม ซันเดอร์แลนด์ เขาได้ถูกเปลี่ยนตัวออก ในนาทีที่ 26 ซึ่งตรงกับเบอร์เสื้อของเขาเองเลย และก็เป็นนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้กับ Chelsea และก็ยังคงเป็นตำนานในการเล่นที่ดีที่สุด